คำกริยาเชิงการแสดง (Performative Verb) คืออะไร?

ในโลกของการศึกษาภาษาและการสื่อสาร การเข้าใจลักษณะและการทำงานของคำกริยาต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ภาษาอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ หนึ่งในประเภทของคำกริยาที่น่าสนใจและมีความสำคัญคือ "Performative verb" หรือคำกริยาที่มีการกระทำเป็นส่วนหนึ่งของการพูดนั้นเอง ในภาษาไทย เราอาจพบว่าแนวคิดนี้มีความเชื่อมโยงกับการใช้คำที่มีบทบาทในการดำเนินการหรือสร้างผลลัพธ์เฉพาะในสถานการณ์ต่าง ๆ

คำกริยาประเภทนี้มักถูกใช้ในการพูดเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการกระทำบางอย่างโดยตรง เช่น การรับรอง การขอโทษ หรือการสั่งการ คำกริยาที่เป็น Performative verb จึงมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากคำกริยาทั่วไปที่แค่บรรยายเหตุการณ์หรือการกระทำเท่านั้น

ในบทความนี้ เราจะพิจารณาถึงความหมายและตัวอย่างของ Performative verb รวมถึงวิธีการใช้งานในภาษาไทย เพื่อให้เข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของคำกริยาประเภทนี้ในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องมากยิ่งขึ้น

Performative Verb ค อ อะไร?

คำว่า "Performative Verb" หรือ "คำกริยาที่มีการกระทำ" ในภาษาไทย หมายถึง คำกริยาที่ไม่เพียงแค่บรรยายการกระทำ แต่ยังทำการกระทำหรือสร้างผลลัพธ์ในขณะเดียวกันด้วย เมื่อเราพูดคำกริยาที่เป็น Performative Verb เราจะทำการกระทำบางอย่างในทันทีตามคำพูดนั้นๆ เช่น การพูดว่า "สัญญา" ทำให้เกิดการสัญญาขึ้นจริงๆ หรือการพูดว่า "ขอโทษ" ทำให้เกิดการขอโทษขึ้นจริงๆ

ตัวอย่างของ Performative Verb ได้แก่:

  • สัญญา (Promise): การพูดคำว่า "ฉันสัญญาว่าจะทำ" เป็นการสร้างสัญญาในขณะนั้น
  • ขอโทษ (Apologize): การพูดคำว่า "ฉันขอโทษ" เป็นการทำการขอโทษในทันที
  • แต่งงาน (Marry): การพูดคำว่า "ฉันยอมรับที่จะเป็นคู่สมรสของคุณ" เป็นการทำการแต่งงาน

ในภาษาไทย การเข้าใจ Performative Verb ช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ภาษาที่ไม่เพียงแค่สื่อสารข้อมูล แต่ยังมีอิทธิพลในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตามที่กล่าวออกไป

ประวัติและความหมายของ Performative Verb

คำว่า "Performative verb" หรือ "คำกริยาที่แสดงการกระทำ" เป็นแนวคิดทางภาษาศาสตร์ที่มีความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับภาษาและการสื่อสาร โดยเฉพาะในด้านของการพูดและการกระทำผ่านการพูดการพูดในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่เพื่อการสื่อสารข้อมูลหรือความคิดเห็น แต่ยังเป็นการกระทำที่สร้างผลลัพธ์ในตัวมันเอง ซึ่งแตกต่างจากการพูดในรูปแบบอื่นๆ ที่มักมีวัตถุประสงค์ในการรายงานหรือถามคำถามการศึกษา Performative verb เริ่มต้นมาจากงานของนักภาษาศาสตร์ชื่อดัง เช่น จอห์น ลอส (John L. Austin) และ จอห์น เซอล (John Searle) ซึ่งพัฒนาแนวคิดนี้ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะการศึกษาของ Austin ในหนังสือ "How to Do Things with Words" ที่เสนอว่า คำกริยาอย่างเช่น "สาบาน", "สัญญา", "ประกาศ" เป็นต้น ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกทางภาษา แต่ยังเป็นการกระทำที่สร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้ด้วยตัวอย่างของ Performative verb ได้แก่ การพูดว่า "ฉันขอสาบาน" ซึ่งไม่เพียงแค่แสดงความตั้งใจของผู้พูด แต่ยังทำให้การสาบานนั้นเกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังมีคำอื่นๆ ที่แสดงถึงการกระทำเช่น "แต่งงาน", "ขอร้อง", และ "ประกาศ" ที่เมื่อใช้ในบริบทที่เหมาะสม จะมีผลต่อสถานการณ์หรือสถานะของผู้พูดและผู้ฟังความสำคัญของ Performative verb คือการทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทของภาษาที่ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างและเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางสังคม การศึกษา Performative verb จึงมีความสำคัญในการเข้าใจว่าภาษาสามารถมีอิทธิพลต่อการกระทำและความสัมพันธ์ของผู้คนอย่างไร

การใช้ Performative Verb ในภาษาไทย

คำกริยา performative (คำกริยาที่แสดงการกระทำ) ในภาษาไทยคือคำกริยาที่ใช้เพื่อแสดงการกระทำที่ทำให้เกิดผลหรือสร้างสถานการณ์ใหม่ ๆ การใช้ performative verb เป็นสิ่งสำคัญในภาษาไทยเพราะช่วยให้เราสื่อสารได้ชัดเจนและตรงตามวัตถุประสงค์ตัวอย่างของ performative verb ในภาษาไทย ได้แก่ คำกริยาอย่าง "สาบาน", "ขอ", "สั่ง" และ "ให้" ซึ่งใช้ในการแสดงการกระทำที่มีผลต่อสถานการณ์ เช่น:คำว่า "สาบาน" ใช้เพื่อแสดงความมุ่งมั่นหรือความเชื่อมั่น เช่น "ฉันสาบานว่าจะทำตามสัญญา" คำนี้ทำให้เกิดการแสดงออกถึงการรับผิดชอบหรือความตั้งใจจริงคำว่า "ขอ" ใช้ในการขอร้องหรือขออนุญาต เช่น "ฉันขออนุญาตใช้โทรศัพท์ได้ไหม" คำนี้แสดงถึงความต้องการให้มีการอนุญาตหรือการตอบรับคำว่า "สั่ง" ใช้ในการสั่งการหรือออกคำสั่ง เช่น "นายสั่งให้ทำงานนี้ให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้" คำนี้แสดงถึงการกำหนดให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งคำว่า "ให้" ใช้ในการให้สิ่งของหรือให้สิทธิ เช่น "ฉันให้ของขวัญนี้แก่คุณ" คำนี้แสดงถึงการมอบสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้กับบุคคลอื่นการใช้ performative verb ต้องคำนึงถึงบริบทและความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดความเข้าใจผิด คำกริยาเหล่านี้ช่วยเพิ่มความชัดเจนในการสื่อสารและการจัดการสถานการณ์ที่ต้องการการตอบสนองหรือการดำเนินการบางอย่าง

ตัวอย่าง Performative Verb ในการสื่อสารประจำวัน

ในการสื่อสารประจำวัน เรามักพบกับการใช้คำกริยาแบบ Performative Verb ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแสดงออกถึงการกระทำที่เกิดขึ้นพร้อมกับการพูด เช่น การให้คำสัญญา การขอโทษ หรือการให้คำสั่ง โดยคำกริยาเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่บรรยายการกระทำ แต่ยังเป็นการกระทำด้วยตนเองในขณะพูด ตัวอย่างของ Performative Verb ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันได้แก่:การสัญญา: คำว่า "สัญญา" หรือ "รับรอง" ที่ใช้ในการทำข้อตกลง เช่น "ฉันสัญญาว่าจะกลับมาทำงานตรงเวลา" เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเมื่อพูดสัญญานั้นออกไปการขอโทษ: คำว่า "ขอโทษ" ที่ใช้ในการแสดงความเสียใจ เช่น "ฉันขอโทษที่ทำให้คุณไม่พอใจ" การพูดคำนี้แสดงถึงการขอโทษและการยอมรับความผิดพลาดในทันทีการขออนุญาต: คำว่า "ขออนุญาต" ที่ใช้ในการขออนุญาตทำสิ่งต่าง ๆ เช่น "ฉันขออนุญาตไปห้องน้ำ" นี่เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นพร้อมกับการขออนุญาตการให้คำสั่ง: คำว่า "สั่ง" ที่ใช้ในการให้คำสั่งหรือคำแนะนำ เช่น "กรุณานั่งลง" การพูดคำนี้มีความหมายว่าเป็นการสั่งให้ทำตามคำสั่งนั้นการเข้าใจการใช้ Performative Verb ช่วยให้เราสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรู้ว่าคำพูดของเรามีผลกระทบต่อการกระทำของผู้อื่นอย่างไรในสถานการณ์ต่าง ๆ

ความสำคัญของ Performative Verb ต่อการเรียนรู้ภาษา

การเรียนรู้ภาษาเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความเข้าใจในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงการรู้จักกับรูปแบบต่าง ๆ ของคำกริยาและการใช้มันอย่างถูกต้อง หนึ่งในหัวข้อที่สำคัญในด้านนี้คือ Performative Verb ซึ่งหมายถึงคำกริยาที่ใช้ในการกระทำหรือแสดงออกถึงการกระทำในตัวมันเอง เช่น การกล่าวคำสัญญาหรือการให้คำสั่ง

การเข้าใจและใช้งาน Performative Verb อย่างถูกต้องสามารถช่วยให้นักเรียนภาษามีความสามารถในการสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การเรียนรู้ภาษาเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจในวัฒนธรรมและวิธีการสื่อสารของเจ้าของภาษาได้ดีขึ้น

บทสรุป

Performative Verb มีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้ภาษา เนื่องจากมันไม่เพียงแค่เป็นการใช้คำพูดเพื่อสื่อสาร แต่ยังเป็นการทำให้คำพูดกลายเป็นการกระทำด้วย การรู้จักและเข้าใจการใช้คำกริยาประเภทนี้จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถ:

  • เข้าใจบริบท ของการใช้คำกริยาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
  • ใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการสื่อสารความหมายและอารมณ์ที่ต้องการ
  • หลีกเลี่ยงความสับสน และความเข้าใจผิดในการใช้คำพูด

โดยสรุป, Performative Verb ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้ภาษาและการเข้าใจการใช้ภาษาในบริบทต่าง ๆ การพัฒนาความเข้าใจในเรื่องนี้จะช่วยเสริมสร้างทักษะทางภาษาและทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น