Passives คือ อะไร? ทำความรู้จักกับรูปแบบการใช้ Passive Voice
ในโลกของการศึกษาและการเรียนรู้ภาษา เรามักจะพบกับการพูดถึง "Passive Voice" หรือที่รู้จักในภาษาไทยว่า "ประโยคถูกกระทำ" ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้ประโยคที่มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้เน้นการกระทำที่เกิดขึ้นมากกว่าผู้กระทำ
การใช้รูปแบบประโยค Passive Voice เป็นเรื่องที่สำคัญและมีประโยชน์ในหลายบริบทของการสื่อสาร โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้เขียนหรือผู้พูดต้องการเน้นความสำคัญของสิ่งที่ถูกกระทำแทนที่จะเป็นผู้กระทำ
ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาถึงความหมายและการใช้ประโยค Passive Voice โดยละเอียด และทำความเข้าใจว่าการใช้รูปแบบนี้สามารถช่วยในการสื่อสารได้อย่างไร รวมถึงตัวอย่างการใช้งานในสถานการณ์ที่ต่างกัน
Passives ค คืออะไร? ความหมายและความสำคัญ
คำว่า "Passives ค" อาจจะฟังดูไม่คุ้นหูสำหรับหลายคน แต่ในโลกของการเรียนรู้ภาษาและเทคโนโลยี มันมีความหมายที่สำคัญและน่าสนใจมากมาย ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Passives ค ว่าคืออะไร และมันมีความสำคัญอย่างไรในบริบทต่าง ๆความหมายของ Passives คPassives ค เป็นรูปแบบของ Passive Voice หรือที่เรียกว่าประโยคถูกกระทำในภาษาอังกฤษ ซึ่งเน้นการใช้คำกริยารูป Passive เพื่อเน้นที่การกระทำที่เกิดขึ้นมากกว่าผู้กระทำในประโยค ตัวอย่างเช่น “The book was read by many people.” (หนังสือถูกอ่านโดยหลายคน) ที่นี่เราจะเห็นว่า ‘The book’ คือผู้ที่ถูกกระทำ (passive) และ ‘many people’ คือผู้กระทำ (agent) แต่ประโยคนี้เน้นที่การกระทำของหนังสือมากกว่าผู้ที่ทำการอ่านความสำคัญของ Passives คการเน้นที่ผลลัพธ์มากกว่าผู้กระทำ: การใช้ Passive Voice ช่วยให้สามารถเน้นที่สิ่งที่เกิดขึ้นหรือผลลัพธ์ของการกระทำมากกว่าผู้ที่กระทำการ เช่นในเอกสารวิจัยหรือข่าวสารที่มักเน้นที่ผลลัพธ์ของการทดลองหรือเหตุการณ์มากกว่าผู้ที่ทำการทดลองหรือเหตุการณ์นั้นการหลีกเลี่ยงการระบุผู้กระทำ: บางครั้งผู้เขียนอาจต้องการหลีกเลี่ยงการระบุผู้กระทำเพื่อความเป็นกลางหรือเมื่อต้องการเน้นที่การกระทำหรือเหตุการณ์ ตัวอย่างเช่น ในเอกสารทางวิทยาศาสตร์อาจใช้ Passive Voice เพื่อให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าผู้วิจัยการสร้างความกระชับและชัดเจน: การใช้ Passive Voice สามารถช่วยให้ข้อความมีความกระชับและชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในเอกสารทางการหรือรายงานที่ต้องการเน้นที่เนื้อหาหรือข้อมูลมากกว่าผู้ที่ดำเนินการโดยรวมแล้ว การเข้าใจและใช้ Passives ค อย่างถูกต้องสามารถช่วยให้การสื่อสารของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเขียน การพูด หรือการทำงานทางวิชาการ การเลือกใช้ Passive Voice อย่างเหมาะสมช่วยเพิ่มความชัดเจนและประสิทธิภาพในการถ่ายทอดข้อมูลหรือแนวคิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
วิธีการใช้งาน Passives ค ในภาษาไทย
ในภาษาไทย การใช้รูปแบบ Passive หรือรูปแบบ "ถูกทำ" เป็นวิธีที่ช่วยให้เราสามารถเน้นหรือเน้นย้ำว่าการกระทำเกิดขึ้นกับประธานมากกว่าการกระทำที่กระทำโดยประธานนั้น ในภาษาไทยการใช้รูปแบบนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างจากภาษาอังกฤษเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีประโยชน์ในการสื่อสาร
การสร้างประโยคแบบ Passive
ในการสร้างประโยคแบบ Passive ในภาษาไทย เราจะใช้คำว่า "ถูก" หรือ "ถูกทำ" ตามด้วยคำกริยาและส่วนที่เหลือของประโยค เช่น:
ในกรณีนี้ "ถูกอ่าน" เป็นรูปแบบ Passive ของกริยา "อ่าน" ที่เน้นว่าหนังสือเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ
การใช้งาน
-
เน้นที่สิ่งที่ถูกกระทำ
การใช้รูปแบบ Passive จะช่วยให้การสื่อสารเน้นไปที่สิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำมากกว่าการกระทำเอง เช่น: -
เมื่อไม่ทราบผู้กระทำ
บางครั้งเรามักจะใช้รูปแบบ Passive เมื่อเราไม่รู้ว่าผู้กระทำคือใคร หรือไม่จำเป็นต้องระบุ เช่น: -
ใช้ในทางการหรือทางวิชาการ
รูปแบบ Passive มักใช้ในเอกสารทางการหรือเอกสารวิชาการเพื่อให้การสื่อสารเป็นทางการและเป็นกลาง เช่น:
การเปลี่ยนจาก Active เป็น Passive
ในการเปลี่ยนประโยคจาก Active เป็น Passive ในภาษาไทย ให้พิจารณาดังนี้:
- ระบุประธานที่เป็นเป้าหมายของการกระทำ
- ใช้คำว่า "ถูก" หรือ "ถูกทำ" ตามด้วยคำกริยา
- ระบุผู้กระทำหลังจากคำกริยา (ถ้าจำเป็น)
ตัวอย่าง:
การใช้รูปแบบ Passive จะช่วยให้เราสามารถสื่อสารข้อมูลในลักษณะที่เน้นผลลัพธ์หรือผลกระทบของการกระทำมากกว่าการกระทำเอง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการสร้างประโยคที่มีความหมายครบถ้วนและชัดเจน
ประโยชน์และข้อดีของการใช้ Passives ค
การใช้ Passives ค มีหลายประโยชน์และข้อดีที่สามารถช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิผล นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญของการใช้ Passives ค:การเพิ่มความชัดเจนในการสื่อสาร: การใช้ Passives ค ช่วยให้การสื่อสารมีความชัดเจนมากขึ้น โดยการเน้นที่ผลลัพธ์หรือสถานการณ์มากกว่าที่จะเน้นที่ผู้กระทำ ซึ่งช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นในบางสถานการณ์การสร้างความรู้สึกเป็นกลาง: การใช้ Passives ค ช่วยให้การนำเสนอข้อมูลมีความเป็นกลางและไม่ทำให้รู้สึกว่ามีการตัดสินหรือมุมมองส่วนตัวจากผู้พูดหรือผู้เขียน ซึ่งเหมาะสำหรับการเขียนเอกสารทางวิชาการหรือรายงานที่ต้องการความเป็นกลางการปรับปรุงโครงสร้างของประโยค: ในบางกรณี การใช้ Passives ค ช่วยให้โครงสร้างประโยคดูเรียบร้อยและเป็นระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคำกริยาเป็นส่วนสำคัญที่ควรเน้นมากกว่าผู้กระทำการหลีกเลี่ยงการกล่าวโทษ: การใช้ Passives ค สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการกล่าวโทษหรือการชี้ให้เห็นความผิดพลาดของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งทำให้การสื่อสารดูมีความสุภาพและเหมาะสมมากขึ้นในสถานการณ์ที่อ่อนไหวการเน้นที่ผลลัพธ์: การใช้ Passives ค ช่วยให้เราสามารถเน้นที่ผลลัพธ์ของการกระทำได้มากกว่าที่จะเน้นที่ผู้กระทำ ซึ่งเป็นประโยชน์ในกรณีที่เราต้องการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าตัวบุคคลการใช้ Passives ค อย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้การสื่อสารของเรามีความชัดเจนและเหมาะสมกับบริบทที่เราต้องการสื่อสารได้ดีขึ้น
ข้อควรระวังในการใช้ Passives ค ในการสื่อสาร
การใช้ Passives ค เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการสื่อสาร เพื่อทำให้เนื้อหามีความกระชับและชัดเจนขึ้น แต่การใช้ Passives ค อย่างไม่ระมัดระวังอาจทำให้การสื่อสารเกิดความคลุมเครือหรือเข้าใจผิดได้ ดังนั้นจึงมีข้อควรระวังบางประการที่ควรพิจารณาเมื่อใช้ Passives ค ในการสื่อสาร.
ข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้ Passives ค ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ทำให้เกิดความสับสนในข้อความของคุณ:
การใช้ Passives ค อย่างระมัดระวังจะช่วยให้การสื่อสารของคุณมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำไว้ว่าความชัดเจนและความเข้าใจง่ายเป็นกุญแจสำคัญในการสื่อสารที่ดี.