ทาร์ทาร์ คือ อะไร?
Tartar เป็นคำที่หลายคนอาจเคยได้ยิน แต่ไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร ในทางทันตกรรมและการแพทย์ Tartar เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปากและฟันของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสะสมของสารที่เกิดจากการสะสมของแคลเซียมและฟอสฟอรัสบนพื้นผิวฟัน
การสะสมของ Tartar หรือที่เรียกว่า "หินปูน" สามารถเกิดขึ้นได้จากการไม่รักษาความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาทางทันตกรรม เช่น โรคเหงือกและฟันผุ การทำความสะอาดฟันไม่เพียงพอจะทำให้แผ่นฟัน (Plaque) เกิดการแข็งตัวและกลายเป็น Tartar ซึ่งยากต่อการกำจัดด้วยการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว
ในบทความนี้ เราจะสำรวจรายละเอียดเกี่ยวกับ Tartar เรียนรู้วิธีการป้องกันและการรักษา เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพฟันและช่องปากของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมายของ Tartar และประเภทของมัน
Tartar หรือที่เรียกว่า "หินปูน" เป็นสารที่เกิดจากการสะสมของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปาก ซึ่งมักเกิดจากการสะสมของคราบแบคทีเรียและเศษอาหาร เมื่อสารเหล่านี้สะสมและแข็งตัว จะทำให้เกิดการสะสมเป็นชั้นๆ บนผิวฟัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากได้ เช่น การอักเสบของเหงือก และการสูญเสียฟันในระยะยาว
ประเภทของ Tartar มีสองชนิดหลัก ได้แก่:
- Tartar ที่เหนือเหงือก: เป็นประเภทที่มักพบเห็นได้บ่อยที่สุด จะสะสมอยู่ที่บริเวณเหนือเส้นเหงือกและเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ง่าย การสะสมของ Tartar ประเภทนี้อาจทำให้เกิดอาการบวมและแดงที่เหงือก
- Tartar ที่ใต้เหงือก: เป็นประเภทที่พบได้ยากกว่าและมักจะไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย เนื่องจากอยู่ใต้เส้นเหงือก การสะสมของ Tartar ประเภทนี้อาจทำให้เกิดการอักเสบภายในเหงือกและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปาก
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและการใช้ไหมขัดฟัน สามารถช่วยป้องกันการเกิด Tartar และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพช่องปากได้
สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิด Tartar
Tartar หรือที่รู้จักกันในชื่อแคลคูลัส เป็นคราบที่แข็งตัวบนฟันซึ่งเกิดจากการสะสมของคราบจุลินทรีย์และแร่ธาตุจากน้ำลาย หากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ การสะสมนี้จะทำให้เกิดการแข็งตัวและเป็นหินปูนที่ติดแน่นบนฟัน
สาเหตุหลักของการเกิด Tartar ได้แก่:
- การทำความสะอาดฟันไม่เพียงพอ: การแปรงฟันไม่ทั่วถึงหรือไม่ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำสามารถทำให้คราบจุลินทรีย์สะสมและแข็งตัวได้
- การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง: น้ำตาลสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในปาก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์และ Tartar
- การขาดการตรวจสุขภาพฟัน: การไม่ไปพบทันตแพทย์เป็นระยะๆ สามารถทำให้ปัญหาที่เกี่ยวกับฟันไม่ถูกตรวจพบและรักษาได้ทันท่วงที
- การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่สามารถทำให้ปากแห้งและลดประสิทธิภาพของการทำความสะอาดฟัน, เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด Tartar
การดูแลรักษาฟันให้สะอาดและการตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิด Tartar และปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ
วิธีการป้องกันและรักษา Tartar
Tartar หรือที่เรียกกันว่า “หินปูน” คือสารแข็งที่สะสมอยู่บนฟัน ซึ่งเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียและแร่ธาตุต่างๆ หากไม่ทำการรักษา อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ เช่น ฟันผุและโรคเหงือกได้ ดังนั้นการป้องกันและรักษา tartar จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
การป้องกัน Tartar
- แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ: แปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ การแปรงฟันจะช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการเกิด tartar
- ใช้ไหมขัดฟัน: การใช้ไหมขัดฟันทุกวันช่วยขจัดเศษอาหารและแบคทีเรียที่ติดอยู่ระหว่างฟันและใต้เส้นเหงือก ซึ่งช่วยลดการสะสมของ tartar
- การใช้เครื่องมือทำความสะอาดช่องปาก: การใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก เช่น แปรงขัดซอกฟัน จะช่วยทำความสะอาดบริเวณที่แปรงฟันไม่สามารถเข้าถึงได้
- การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ: การไปพบทันตแพทย์เพื่อทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพจะช่วยกำจัด tartar ที่สะสมอยู่และป้องกันการสะสมใหม่
การรักษา Tartar
หาก tartar ได้สะสมอยู่ในช่องปากแล้ว จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ การรักษาจะประกอบด้วย:
- การทำความสะอาดฟันโดยทันตแพทย์: ทันตแพทย์จะทำการขจัด tartar ที่สะสมอยู่โดยการขัดฟันและใช้เครื่องมือพิเศษ
- การรักษาด้วยการขัดฟัน: การขัดฟันจะช่วยขจัด tartar และทำให้พื้นผิวของฟันเรียบขึ้น เพื่อลดโอกาสในการสะสมของ tartar ในอนาคต
- การแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพช่องปาก: ทันตแพทย์อาจให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลฟันและเหงือกที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิด tartar ในอนาคต
การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอและการรักษาอย่างทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดปัญหาเกี่ยวกับ tartar และปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ
สรุปและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกัน Tartar
การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิด Tartar ซึ่งเป็นปัญหาที่อาจนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพช่องปากที่รุนแรงมากขึ้น เช่น ฟันผุและเหงือกอักเสบ การป้องกัน Tartar ไม่เพียงแค่ช่วยรักษาสุขภาพฟันและเหงือก แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับช่องปากและฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้การป้องกัน Tartar มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
- การแปรงฟัน: ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและ Tartar
- การใช้ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดระหว่างซอกฟันและลดการสะสมของเศษอาหารที่อาจเป็นสาเหตุของ Tartar
- การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน Tartar: ใช้ยาสีฟันหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการป้องกัน Tartar เพื่อเสริมสร้างการป้องกัน
- การตรวจสุขภาพช่องปาก: เข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ และทำความสะอาดฟันอย่างมืออาชีพเพื่อป้องกันการสะสมของ Tartar
คำแนะนำเพิ่มเติม
การรักษาสุขภาพช่องปากอย่างดีไม่เพียงแค่ช่วยป้องกัน Tartar แต่ยังทำให้ฟันและเหงือกของคุณแข็งแรงและมีสุขภาพดี การปฏิบัติตามข้อแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาทางช่องปากและรักษารอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพดีของคุณไปตลอดชีวิต