วัสดุสีเขียวคืออะไร? มาทำความรู้จักกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกันเถอะ
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง การหันมาใช้วัสดุสีเขียวหรือ "Green materials" จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น วัสดุเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อธรรมชาติและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนมากขึ้น การเลือกใช้วัสดุสีเขียวไม่เพียงแต่เป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังช่วยในการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย
วัสดุสีเขียวมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้มันแตกต่างจากวัสดุทั่วไป โดยทั่วไปแล้ววัสดุสีเขียวจะมาจากแหล่งที่สามารถหมุนเวียนกลับได้ง่าย หรือผลิตจากวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็ว การใช้วัสดุเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตและการใช้สินค้าต่างๆ มีผลกระทบน้อยลงต่อโลก
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับวัสดุสีเขียวที่มีความหลากหลาย และศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของวัสดุแต่ละชนิด รวมถึงวิธีการที่คุณสามารถนำวัสดุเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ
วัสดุสีเขียวคืออะไร?
วัสดุสีเขียว (Green materials) หมายถึง วัสดุที่ถูกพัฒนาหรือเลือกใช้โดยมีการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ วัสดุเหล่านี้มีลักษณะสำคัญคือการลดการใช้พลังงานในการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ดีวัสดุสีเขียวมักมีคุณสมบัติเฉพาะที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น:ใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน: วัสดุที่มาจากแหล่งที่สามารถต่อเนื่องได้หรือที่มีการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน เช่น ไม้ที่ได้จากป่าไม้ที่ปลูกใหม่การลดการใช้พลังงาน: วัสดุที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เช่น ฉนวนกันความร้อนที่ช่วยลดการใช้พลังงานในระบบทำความร้อนและการระบายความร้อนการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่: วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือมีการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น พลาสติกที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลหรือกระเบื้องที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ปลอดภัยต่อสุขภาพ: วัสดุที่ไม่มีสารพิษหรือสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้หรือสิ่งแวดล้อม เช่น สีที่ปราศจากสารตะกั่วหรือฟอร์มัลดีไฮด์การเลือกใช้วัสดุสีเขียวเป็นวิธีหนึ่งในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบจากการผลิตและการใช้วัสดุต่อโลกและสิ่งแวดล้อม วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นในปัจจุบัน แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมสำหรับคนรุ่นหลังอีกด้วย
ประเภทของวัสดุสีเขียว
วัสดุสีเขียว (Green materials) เป็นวัสดุที่ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยวัสดุเหล่านี้มักจะมีลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในกระบวนการผลิต การใช้งาน และการกำจัดทิ้ง ต่อไปนี้เป็นประเภทของวัสดุสีเขียวที่สำคัญ:วัสดุรีไซเคิล (Recycled Materials)วัสดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ใหม่ เช่น กระดาษที่รีไซเคิลจากกระดาษเก่า พลาสติกที่ถูกแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ วัสดุรีไซเคิลช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปริมาณของเสียที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบวัสดุจากธรรมชาติ (Natural Materials)วัสดุที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติที่ยั่งยืน เช่น ไม้จากป่าไม้ที่ได้รับการจัดการอย่างยั่งยืน หรือหินธรรมชาติ วัสดุเหล่านี้มักจะมีการย่อยสลายได้ทางชีวภาพและสามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้วัสดุที่มีการใช้พลังงานต่ำ (Low Energy Materials)วัสดุที่มีการใช้พลังงานน้อยในกระบวนการผลิต เช่น วัสดุที่ผลิตจากเทคนิคที่ไม่ใช้พลังงานมากหรือวัสดุที่มีคุณสมบัติในการเก็บรักษาพลังงานได้ดีวัสดุที่ปล่อยสารพิษน้อย (Low Emission Materials)วัสดุที่ผลิตและใช้งานโดยไม่ปล่อยสารพิษหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เช่น สีที่ปราศจากสารเคมีอันตราย หรือวัสดุก่อสร้างที่ไม่ปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ (Biodegradable Materials)วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ เช่น วัสดุจากพืชที่มีการย่อยสลายเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการเลือกใช้วัสดุสีเขียวไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว
ข้อดีของการใช้วัสดุสีเขียว
วัสดุสีเขียว หรือที่เรียกกันว่า "วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" มีข้อดีหลายประการที่สามารถช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ดังนี้:ลดการใช้พลังงาน: วัสดุสีเขียวมักจะมีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน โดยการใช้วัสดุที่มีความสามารถในการเก็บความร้อนหรือระบายความร้อนที่ดี ทำให้สามารถลดการใช้พลังงานในการทำความร้อนหรือการทำความเย็นในอาคารลดมลพิษ: การใช้วัสดุสีเขียวช่วยลดการปล่อยสารเคมีอันตรายและมลพิษจากวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมรอบข้างประหยัดค่าใช้จ่าย: แม้ว่าวัสดุสีเขียวอาจมีราคาสูงกว่าวัสดุปกติในตอนแรก แต่การใช้วัสดุเหล่านี้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เนื่องจากการประหยัดพลังงานและลดความต้องการในการซ่อมบำรุงส่งเสริมความยั่งยืน: การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว โดยการเลือกวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ง่าย ช่วยลดขยะและทรัพยากรที่ต้องการในการผลิตวัสดุใหม่ปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน: วัสดุสีเขียวมักจะปล่อยสารเคมีอันตรายในระดับต่ำ ทำให้คุณภาพอากาศภายในอาคารดีขึ้น ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยการเลือกใช้วัสดุสีเขียวจึงไม่เพียงแต่เป็นการเลือกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวที่สามารถช่วยให้ชีวิตของเราและโลกนี้ดีขึ้นได้
วิธีการเลือกวัสดุสีเขียวสำหรับโครงการของคุณ
การเลือกวัสดุสีเขียวสำหรับโครงการของคุณเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติ นี่คือขั้นตอนและข้อควรพิจารณาที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุที่เลือกมีความเหมาะสมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม:ตรวจสอบการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมค้นหาวัสดุที่ได้รับการรับรองจากองค์กรหรือมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น LEED, BREEAM หรือ Green Seal ซึ่งการรับรองเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจว่าวัสดุนั้นๆ มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมพิจารณาประสิทธิภาพด้านพลังงานเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติในการลดการใช้พลังงาน เช่น ฉนวนกันความร้อนที่ดี วัสดุที่ช่วยลดการสูญเสียความร้อน หรือวัสดุที่สามารถรักษาอุณหภูมิได้ดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานในโครงการของคุณตรวจสอบแหล่งที่มาของวัสดุควรเลือกวัสดุที่มาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน เช่น การใช้ไม้จากป่าไม้ที่ได้รับการจัดการอย่างยั่งยืนหรือวัสดุรีไซเคิล การพิจารณานี้จะช่วยลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและลดการสร้างขยะพิจารณาความทนทานและอายุการใช้งานวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานจะช่วยลดการต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวตรวจสอบผลกระทบต่อสุขภาพเลือกวัสดุที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารฟอร์มาลดีไฮด์หรือสารเคมีอันตรายอื่นๆ การเลือกวัสดุที่ปลอดภัยจะช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารสะอาดและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยพิจารณาความสามารถในการรีไซเคิลเลือกวัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้งานการเลือกวัสดุสีเขียวสำหรับโครงการของคุณไม่เพียงแต่ช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารนั้นๆ ด้วยการพิจารณาข้อแนะนำเหล่านี้ คุณสามารถทำให้โครงการของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลกของเราได้อย่างแท้จริง
ตัวอย่างวัสดุสีเขียวที่ได้รับความนิยมในตลาด
ในปัจจุบัน วัสดุสีเขียวได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากการตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบจากการใช้วัสดุที่ไม่ยั่งยืน วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษอื่นๆ อีกด้วย
วัสดุสีเขียวที่ได้รับความนิยมในตลาดมีหลากหลายชนิดซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อดีเฉพาะที่เหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุสีเขียวจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการสร้างความยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ตัวอย่างวัสดุสีเขียวที่ได้รับความนิยม
- ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืน – ไม้ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่ดูแลเรื่องการจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน เช่น FSC (Forest Stewardship Council) เป็นทางเลือกที่ดีในการลดการตัดไม้ทำลายป่า
- วัสดุก่อสร้างจากรีไซเคิล – การใช้วัสดุก่อสร้างที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล เช่น อิฐที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล หรือกระเบื้องที่ทำจากขยะพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะและการใช้ทรัพยากรใหม่
- วัสดุจากพืช – วัสดุที่ทำจากพืช เช่น แผ่นไม้จากกากอ้อย หรือวัสดุที่ทำจากสาหร่าย ช่วยลดการใช้พลังงานและวัสดุที่ไม่ยั่งยืน
- วัสดุก่อสร้างที่มีคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน – วัสดุที่ช่วยในการรักษาอุณหภูมิและประหยัดพลังงาน เช่น ฉนวนกันความร้อนที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุที่มีการนำกลับมาใช้ใหม่ได้
การเลือกใช้วัสดุสีเขียวไม่เพียงแต่ช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ใช้ เราควรพิจารณาใช้วัสดุสีเขียวในการก่อสร้างและการออกแบบเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม