มาตรฐานอาคารสีเขียวมีอะไรบ้าง?

ในยุคปัจจุบันที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นสำคัญที่เราต้องให้ความสนใจ การสร้างอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงกลายเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในวิธีที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของอาคารในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมคือการใช้มาตรฐาน Green Building Standard ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้การออกแบบและก่อสร้างอาคารมีผลกระทบน้อยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อม

มาตรฐาน Green Building Standard มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการสร้างอาคารที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและทรัพยากร โดยมุ่งเน้นการลดการใช้พลังงาน น้ำ และวัสดุสิ้นเปลือง รวมทั้งการจัดการขยะและการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคาร เพื่อให้การสร้างอาคารไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ใช้

มาตรฐานนี้ประกอบไปด้วยหลายระบบการให้คะแนนที่เป็นที่นิยม เช่น LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) และ BREEAM (Building Research Establishment Environmental Assessment Method) ซึ่งแต่ละระบบมีเกณฑ์การประเมินที่เฉพาะเจาะจง เพื่อช่วยให้เจ้าของโครงการสามารถเลือกใช้มาตรฐานที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายของโครงการนั้นๆ การเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างอาคารที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวคืออะไร?

มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียว (Green Building Standards) หมายถึง แนวทางหรือข้อกำหนดที่ใช้ในการออกแบบ, ก่อสร้าง, และจัดการอาคารเพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติตามมาตรฐานเหล่านี้ช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นไปที่การลดการใช้พลังงาน, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตัวอย่างมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวที่รู้จักกันดี ได้แก่ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานอื่นๆ เช่น BREEAM (Building Research Establishment Environmental Assessment Method) และ Green Star ซึ่งต่างก็มีเกณฑ์และข้อกำหนดที่ช่วยในการประเมินและยืนยันว่าอาคารนั้นๆ ได้ปฏิบัติตามหลักการของการก่อสร้างสีเขียวการปฏิบัติตามมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวไม่เพียงแต่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน และการเพิ่มมูลค่าให้กับอาคาร ทั้งนี้ มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

ประเภทของมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวที่สำคัญ

มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียว (Green Building Standards) เป็นแนวทางในการออกแบบและก่อสร้างที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร โดยมีหลายประเภทที่สำคัญซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ดังนี้:LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)LEED เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยสภาการก่อสร้างสีเขียวของสหรัฐอเมริกา (USGBC) ซึ่งเน้นการประหยัดพลังงานและทรัพยากร รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน อาคารที่ได้รับการรับรอง LEED จะต้องผ่านการประเมินในหลายด้าน เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการน้ำ และการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมBREEAM (Building Research Establishment Environmental Assessment Method)BREEAM เป็นมาตรฐานจากสหราชอาณาจักรที่มีการประเมินด้านต่าง ๆ เช่น การจัดการน้ำ การประหยัดพลังงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะให้คะแนนตามการปฏิบัติตามมาตรฐานต่าง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งระดับการรับรองได้ตั้งแต่ "ดี" ไปจนถึง "ยอดเยี่ยม"GREEN STARGREEN STAR เป็นระบบการประเมินของออสเตรเลียที่พัฒนาโดยสถาบันการก่อสร้างสีเขียวออสเตรเลีย (GBCA) ซึ่งเน้นการประเมินการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานของอาคารในด้านความยั่งยืน โดยมีการให้คะแนนในหลายด้าน เช่น การใช้พลังงานและน้ำ การจัดการขยะ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมWELL Building StandardWELL เป็นมาตรฐานที่มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร โดยเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้งาน อาคารที่ได้รับการรับรอง WELL จะต้องผ่านการประเมินด้านต่าง ๆ เช่น การควบคุมคุณภาพอากาศ การออกแบบที่เอื้อต่อสุขภาพ และการให้สภาพแวดล้อมที่ดีDGNB (German Sustainable Building Council)DGNB เป็นมาตรฐานจากเยอรมนีที่เน้นการประเมินด้านความยั่งยืนในระดับสูง โดยพิจารณาหลายมิติ เช่น การใช้พลังงาน การออกแบบเพื่อการใช้งานที่ยั่งยืน และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมการเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างสีเขียวจะขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของโครงการและข้อกำหนดทางท้องถิ่น แต่ละมาตรฐานมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน และการพิจารณาอย่างรอบคอบจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการสร้างอาคารที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม.

ข้อดีของการใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียว

การก่อสร้างสีเขียวหรือการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีข้อดีหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม โดยการใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวสามารถเสริมสร้างความยั่งยืนในหลายๆ ด้าน ดังนี้:

  1. ประหยัดพลังงานและทรัพยากร: การออกแบบและการก่อสร้างตามมาตรฐานสีเขียวมักเน้นการลดการใช้พลังงานและน้ำ เช่น การติดตั้งระบบพลังงานทดแทน การใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพในการเก็บความร้อนและการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในระยะยาว

  2. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การก่อสร้างสีเขียวมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษอื่นๆ โดยการใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการจัดการการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ

  3. เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย: อาคารที่สร้างตามมาตรฐานสีเขียวมักมีการจัดการที่ดีในเรื่องของการระบายอากาศและแสงธรรมชาติ ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสะดวกสบายและมีสุขภาพดีขึ้น

  4. เพิ่มมูลค่าให้กับอสังหาริมทรัพย์: อสังหาริมทรัพย์ที่มีการก่อสร้างตามมาตรฐานสีเขียวมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการคาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจะต่ำกว่า

  5. ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: การใช้วัสดุก่อสร้างที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย รวมถึงการออกแบบที่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับสุขภาพ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีชีวิตที่ดีและมีสุขภาพที่ดีขึ้น

การเลือกใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวจึงไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในด้านการประหยัดพลังงานและทรัพยากรเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว

วิธีการประยุกต์ใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวในโครงการต่างๆ

การนำมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวมาใช้ในโครงการก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคารด้วย ดังนั้น วิธีการประยุกต์ใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวในโครงการต่างๆ จึงมีความสำคัญไม่น้อยการวางแผนและออกแบบที่ยั่งยืน: ขั้นตอนแรกในการประยุกต์ใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวคือการวางแผนและออกแบบที่คำนึงถึงหลักการของการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการออกแบบที่เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดี การเลือกใช้กระจกที่มีคุณสมบัติช่วยประหยัดพลังงาน หรือการจัดการการรับแสงธรรมชาติการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: การใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือวัสดุที่มีการปล่อยสารพิษต่ำเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การใช้ไม้ที่มาจากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่เชื่อถือได้การจัดการทรัพยากรน้ำ: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและวิธีการที่ช่วยประหยัดน้ำ เช่น การติดตั้งระบบเก็บน้ำฝนและการใช้ระบบการบำบัดน้ำเสียภายในอาคาร ซึ่งจะช่วยลดการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการจัดการพลังงาน: การใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ และการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยลดการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวการตรวจสอบและประเมินผล: การดำเนินการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนในการก่อสร้างและการใช้งานอาคารตรงตามมาตรฐานที่กำหนด และสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีการประยุกต์ใช้มาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวในโครงการต่างๆ ต้องการการวางแผนที่ดีและการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การใช้แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งสร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาว

ตัวอย่างของอาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียว

การรับรองมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวเป็นการรับรองที่แสดงถึงการใช้แนวทางที่ยั่งยืนในการออกแบบและก่อสร้างอาคาร ซึ่งมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ใช้อาคาร ตัวอย่างของอาคารที่ได้รับการรับรองเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับโครงการก่อสร้างในอนาคตอีกด้วย

ในปัจจุบันมีอาคารหลายแห่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวที่โดดเด่น ซึ่งรวมถึงอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย และสถานที่สาธารณะที่มีการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างอาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียว

  • โรงแรม Green Building, กรุงเทพฯ: อาคารนี้ได้รับการรับรอง LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานทดแทนและการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ศูนย์การค้า Eco Mall, เชียงใหม่: ออกแบบด้วยระบบจัดการพลังงานและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • อาคารสำนักงาน Green Tower, ภูเก็ต: มีการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพและการรีไซเคิลน้ำฝน

การรับรองมาตรฐานการก่อสร้างสีเขียวไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของผู้ใช้อาคาร โดยการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ด้วยการรับรองและตัวอย่างที่กล่าวถึงข้างต้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่เป็นไปได้ในการสร้างอาคารที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต