Int ค อ อะไรใน Excel?

Int ในโปรแกรม Microsoft Excel เป็นฟังก์ชันที่มีความสำคัญในการคำนวณตัวเลข ฟังก์ชันนี้ใช้สำหรับการแปลงค่าเป็นจำนวนเต็มโดยการตัดทศนิยมออก ซึ่งมีประโยชน์มากในการทำงานกับข้อมูลที่ต้องการความแม่นยำในรูปแบบของจำนวนเต็ม เช่น การคำนวณต้นทุนการผลิตหรือการจัดการสต็อกสินค้า

การใช้ฟังก์ชัน Int ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลใน Excel เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องการให้ข้อมูลทั้งหมดถูกแสดงในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจและวิเคราะห์ ฟังก์ชันนี้จะตัดทศนิยมออกและให้ค่าเป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุด

การใช้งานฟังก์ชัน Int เป็นเรื่องง่ายเพียงแค่กรอกสูตร =INT(number) ในเซลล์ที่ต้องการ ซึ่ง number คือค่าที่คุณต้องการแปลงเป็นจำนวนเต็ม ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้การคำนวณของคุณแม่นยำและตรงตามที่ต้องการ

Int ค อ อะไรใน Excel?

ฟังก์ชัน INT ใน Excel ใช้สำหรับการปัดเศษตัวเลขลงไปยังจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุดที่มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าที่ป้อนเข้ามา ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าตัวเลข 5.7 และใช้ฟังก์ชัน INT บนค่าดังกล่าว ผลลัพธ์จะเป็น 5 เนื่องจากฟังก์ชัน INT จะปัดเศษลงไปที่จำนวนเต็มที่ต่ำกว่า 5.7

การใช้งานฟังก์ชัน INT ง่ายมาก เพียงแค่พิมพ์ =INT(จำนวน) ลงในเซลล์ที่ต้องการ โดย จำนวน คือค่าที่คุณต้องการปัดเศษ

ตัวอย่างการใช้:

ฟังก์ชัน INT มีประโยชน์มากเมื่อคุณต้องการจัดการกับค่าที่เป็นจำนวนจริงและต้องการแสดงผลเป็นจำนวนเต็ม หรือเมื่อคุณต้องการทำงานกับค่าตัวเลขในกระบวนการคำนวณที่ไม่ต้องการทศนิยม

การใช้งานฟังก์ชัน INT ใน Excel

ฟังก์ชัน INT ใน Excel เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการกับค่าตัวเลขโดยการปัดเศษค่าลงไปยังจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุดที่น้อยกว่าหรือเท่ากับค่าที่ระบุ ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานกับข้อมูลตัวเลขได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น

รูปแบบของฟังก์ชัน INT คือ:

INT(number)

โดยที่:

ตัวอย่างการใช้งาน:

ฟังก์ชัน INT สามารถใช้ในการคำนวณที่ต้องการให้ค่าเลขถูกปัดเศษลง เช่น การคำนวณจำนวนสิ่งของที่สามารถบรรจุในกล่อง หรือการจัดระเบียบข้อมูลที่มีทศนิยมให้เป็นจำนวนเต็มตามต้องการ

วิธีการใช้งานฟังก์ชัน INT เพื่อปัดเศษลง

ฟังก์ชัน INT ใน Microsoft Excel เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปัดเศษตัวเลขให้เป็นจำนวนเต็ม โดยการตัดทศนิยมออกและทำให้ตัวเลขลดลงไปยังจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุดแต่ยังคงมีค่าน้อยกว่า หรือเท่ากับค่าปัจจุบันของมัน

การใช้ฟังก์ชัน INT เป็นเรื่องง่าย เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

  1. เปิดไฟล์ Excel: เริ่มต้นโดยการเปิดไฟล์ Excel ที่คุณต้องการทำงานด้วย
  2. เลือกเซลล์: คลิกที่เซลล์ที่คุณต้องการใส่ผลลัพธ์ของฟังก์ชัน INT
  3. พิมพ์สูตร: ในเซลล์ที่เลือก ให้พิมพ์สูตร =INT(จำนวน) โดยแทนที่คำว่า จำนวน ด้วยตัวเลขหรือเซลล์ที่คุณต้องการปัดเศษ
  4. กด Enter: หลังจากพิมพ์สูตรเสร็จแล้ว กดปุ่ม Enter เพื่อให้ Excel คำนวณและแสดงผลลัพธ์

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการปัดเศษลงให้เป็นจำนวนเต็มของค่า 9.75 คุณจะพิมพ์สูตร =INT(9.75) และผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น 9

การใช้ฟังก์ชัน INT จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับข้อมูลที่มีค่าทศนิยมและต้องการให้แสดงผลเป็นจำนวนเต็มที่ต่ำกว่าได้อย่างง่ายดาย

ตัวอย่างการใช้ฟังก์ชัน INT ในการคำนวณ

ฟังก์ชัน INT ใน Excel ใช้ในการตัดทศนิยมและคืนค่าเป็นจำนวนเต็ม โดยการปัดลงตัวเลขที่มีทศนิยมให้เป็นจำนวนเต็มที่ใกล้เคียงที่สุดที่น้อยกว่าหรือเท่ากับค่าที่ระบุ นี่คือตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน INT:

ฟังก์ชัน INT เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการคำนวณที่ต้องการจำนวนเต็มเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้ในหลากหลายสถานการณ์ เช่น การประมวลผลข้อมูลทางการเงิน หรือการจัดการข้อมูลที่ต้องการการปัดเศษลงเพื่อความแม่นยำในผลลัพธ์

สรุปข้อดีและข้อเสียของการใช้ฟังก์ชัน INT

ฟังก์ชัน INT ใน Excel เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการจัดการตัวเลข โดยการปัดเศษลงไปที่ค่าจำนวนเต็มที่ใกล้ที่สุด ฟังก์ชันนี้สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการการคำนวณตัวเลขที่ไม่ต้องการจุดทศนิยม.

อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันนี้ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ใช้งานควรคำนึงถึง เช่น การสูญเสียความแม่นยำในกรณีที่ข้อมูลที่ต้องการคำนวณมีความสำคัญในส่วนทศนิยม.

ข้อดีของการใช้ฟังก์ชัน INT

ข้อเสียของการใช้ฟังก์ชัน INT

ฟังก์ชัน INT เป็นเครื่องมือที่ดีหากใช้งานในสถานการณ์ที่เหมาะสม ควรพิจารณาความต้องการในการคำนวณให้รอบคอบก่อนการเลือกใช้ฟังก์ชันนี้.