Endometriotic cyst คืออะไร?

Endometriotic cyst หรือที่เรียกกันว่า "chocolate cyst" เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของเลือดที่มีการสะสมอยู่ภายในถุงน้ำที่มีการอักเสบในบริเวณที่มีเนื้อเยื่อเยื่อบุมดลูกอยู่ในที่ที่ไม่ถูกต้อง เช่น รังไข่ บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยเลือดที่มีการสลายตัวแล้วทำให้เกิดการสะสมในระยะยาว

การเกิด endometriotic cyst เป็นผลมาจากภาวะของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งเป็นภาวะที่เนื้อเยื่อที่ปกติจะอยู่ภายในมดลูกกลับเจริญอยู่ในบริเวณอื่นของร่างกาย การเกิด cyst นี้สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้อง ปวดประจำเดือน และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์

การวินิจฉัยและการรักษาของ endometriotic cyst มักจะต้องใช้การตรวจทางการแพทย์ที่ละเอียด เพื่อให้สามารถระบุขนาดและตำแหน่งของ cyst ได้อย่างแม่นยำ การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยา การผ่าตัด หรือการรักษาอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการของผู้ป่วย

Endometriotic cyst คืออะไร: ความหมายและอาการ

Endometriotic cyst หรือที่เรียกกันว่า "ถุงน้ำที่เกิดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่" เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเนื้อเยื่อที่ปกติจะอยู่ภายในโพรงมดลูก (endometrium) เติบโตอยู่นอกโพรงมดลูก เช่น บนรังไข่, ตรงผนังช่องท้อง หรือที่อื่นๆ ในระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง

อาการของ endometriotic cyst อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่แล้วจะพบว่ามีอาการหลักๆ ดังนี้:

  • ปวดท้อง: ผู้ป่วยมักจะรู้สึกปวดท้องเฉียบพลันหรือเรื้อรัง โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือนหรือก่อนประจำเดือน
  • ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์: อาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์สามารถเป็นสัญญาณหนึ่งของ endometriotic cyst
  • ประจำเดือนผิดปกติ: ประจำเดือนอาจมีปริมาณมากกว่าปกติหรือมีลักษณะผิดปกติ
  • ความรู้สึกไม่สบายในช่องท้อง: อาจมีอาการบวม หรือรู้สึกหนักในช่องท้อง

หากคุณมีอาการเหล่านี้หรือสงสัยว่าตนเองอาจมี endometriotic cyst ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจสอบและวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

สาเหตุของการเกิด Endometriotic cyst

Endometriotic cyst หรือที่เรียกกันว่า "endometrioma" เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ปกติจะอยู่ภายในมดลูกเติบโตอยู่ภายนอกมดลูก ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของเลือดและของเหลวในถุงน้ำที่เรียกว่า cyst ภาวะนี้มักจะพบในผู้หญิงที่มีประวัติเป็นโรค endometriosis ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวมของผู้หญิง

สาเหตุของการเกิด Endometriotic cyst ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างเต็มที่ แต่มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายความเป็นไปได้ โดยทฤษฎีหลักๆ ได้แก่:

  • ทฤษฎีทางพันธุกรรม: มีการศึกษาที่พบว่าโรค endometriosis อาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคนี้ อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้เช่นกัน
  • การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ: ทฤษฎีนี้เสนอว่าเลือดที่มีเนื้อเยื่อของเยื่อบุโพรงมดลูกอาจไหลย้อนกลับไปยังท่อปัสสาวะหรือช่องท้องแทน

    วิธีการวินิจฉัย Endometriotic cyst

    การวินิจฉัย Endometriotic cyst หรือถุงน้ำที่เกิดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) มักจะใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อระบุลักษณะของถุงน้ำและความรุนแรงของโรค ต่อไปนี้คือวิธีการหลักในการวินิจฉัย:

    1. การซักประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกาย: แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการสอบถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย รวมถึงอาการที่เกิดขึ้น เช่น ปวดท้องระหว่างประจำเดือนหรือความรู้สึกเจ็บปวดในบริเวณอื่น ๆ การตรวจร่างกายจะช่วยในการประเมินอาการที่สามารถบ่งบอกถึงการมีถุงน้ำได้

    2. การตรวจด้วยอัลตราซาวด์: การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการวินิจฉัย Endometriotic cyst โดยเฉพาะการตรวจทางช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound) ซึ่งสามารถให้ภาพที่ชัดเจนของถุงน้ำและความหนาแน่นของมัน

    3. การทำ MRI: การตรวจด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) ช่วยให้แพทย์สามารถเห็นรายละเอียดของถุงน้ำได้ดีขึ้นและระบุถึงความลึกและขนาดของถุงน้ำรวมถึงการแพร่กระจายของเยื่อบุโพรงมดลูก

    ทางเลือกในการรักษา Endometriotic Cyst

    การรักษา Endometriotic cyst สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับขนาดของซีสต์และอาการที่ผู้ป่วยประสบ หากซีสต์มีขนาดเล็กและไม่มีอาการรุนแรง การรักษาอาจเริ่มต้นด้วยการใช้ยาและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อบรรเทาอาการและลดการเจริญเติบโตของซีสต์

    หากซีสต์มีขนาดใหญ่หรือมีอาการรุนแรง อาจต้องพิจารณาวิธีการรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การผ่าตัด หรือการใช้การบำบัดด้วยฮอร์โมน นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่อาจเหมาะกับบางกรณี ซึ่งการตัดสินใจขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์

    การรักษาด้วยยาและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

  • การใช้ยาเพื่อควบคุมการเติบโตของซีสต์และลดอาการปวด เช่น ยาคุมกำเนิดหรือยาในการควบคุมฮอร์โมน
  • การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอและการบริโภคอาหารที่เหมาะสม

การผ่าตัด

  • การผ่าตัดเพื่อเอาซีสต์ออก อาจจะเป็นทางเลือกที่จำเป็นสำหรับซีสต์ที่มีขนาดใหญ่หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
  • การผ่าตัดอาจทำได้ทั้งทางช่องท้องหรือผ่านกล้อง (laparoscopy) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความชำนาญของแพทย์

การบำบัดด้วยฮอร์โมน

  • การ