Active Voice คืออะไร?

เมื่อพูดถึงการใช้ภาษาอังกฤษในการเขียนและการสื่อสารหนึ่งในแนวทางที่สำคัญคือการใช้ active voice ซึ่งเป็นรูปแบบของการใช้กริยาในประโยคที่ช่วยให้ข้อความชัดเจนและมีพลังมากขึ้นในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ active voice ว่าคืออะไร และทำไมการใช้มันจึงมีความสำคัญ

ในภาษาอังกฤษ active voice หมายถึงรูปแบบของประโยคที่ประธานของประโยคทำการกระทำที่ระบุในกริยา ตัวอย่างเช่นในประโยค “เขียนจดหมาย” ประธาน “เขา” คือผู้ทำการเขียน และ “จดหมาย” คือวัตถุที่ได้รับการกระทำนี้ นี่เป็นรูปแบบที่ตรงไปตรงมาและกระชับ ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจข้อความได้ง่ายขึ้น

การใช้ active voice มักถูกแนะนำในงานเขียนและการสื่อสารที่ต้องการให้ข้อความมีความกระชับและมีพลังมากขึ้น เพราะมันช่วยให้ข้อความมีความชัดเจนและลดความสับสนจากการใช้ passive voice ซึ่งอาจทำให้ประโยคดูซับซ้อนและยากต่อการเข้าใจ

Active Voice คืออะไร?

Active voice หรือ "เสียงแอกทีฟ" เป็นหนึ่งในรูปแบบการใช้ภาษาอังกฤษที่มักพบในประโยคที่เน้นการกระทำของประธาน (subject) เป็นหลัก ในประโยคที่ใช้ active voice ประธานจะทำการกระทำและมีกรรม (object) เป็นเป้าหมายของการกระทำดังกล่าว

ตัวอย่างของประโยคในรูปแบบ active voice ได้แก่:

• "John wrote the letter." (จอห์นเขียนจดหมาย)
• "The cat chased the mouse." (แมวไล่ตามหนู)

ในประโยคเหล่านี้ ประธาน (John, the cat) เป็นผู้ทำการกระทำ และกรรม (the letter, the mouse) เป็นสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำ

การใช้ active voice ช่วยทำให้ข้อความชัดเจนและตรงประเด็น เนื่องจากมันมุ่งเน้นที่การกระทำและผู้ที่ทำการกระทำ การเลือกใช้ active voice จึงเป็นสิ่งที่นิยมในงานเขียนที่ต้องการความชัดเจนและกระชับ

ความหมายของ Active Voice

ในภาษาอังกฤษ Active Voice หรือที่เรียกว่า "เสียงกระทำ" คือโครงสร้างประโยคที่มีการกระทำที่ชัดเจนโดยตัวประธานของประโยค ตัวประธานจะเป็นผู้กระทำการหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในประโยคนี้

ตัวอย่างของประโยคที่ใช้ Active Voice คือ:

• She writes a letter. (เธอเขียนจดหมาย)
• The cat chased the mouse. (แมวไล่หนู)

ในประโยค Active Voice ตัวประธานคือ "She" และ "The cat" ซึ่งทำการกระทำ "writes" และ "chased" ตามลำดับ ส่วนกรรมจะเป็นสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวประธาน

การใช้ Active Voice ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนและตรงไปตรงมามากขึ้น โดยเฉพาะในงานเขียนที่ต้องการให้เน้นการกระทำหรือผู้กระทำ

ตัวอย่างการใช้ Active Voice ในภาษาไทย

Active voice เป็นโครงสร้างประโยคที่ผู้กระทำเป็นผู้ทำให้เกิดเหตุการณ์หรือการกระทำในประโยค ตัวอย่างของการใช้ Active Voice ในภาษาไทยสามารถเห็นได้จากประโยคที่ผู้กระทำ (ประธาน) ทำการกระทำบางอย่าง เช่น:

• ฉันอ่านหนังสือ – ในประโยคนี้ "ฉัน" เป็นผู้กระทำ และ "อ่าน" เป็นการกระทำที่ทำโดย "ฉัน".
• เขาทำการบ้านเสร็จ – ที่นี่ "เขา" เป็นผู้กระทำ และ "ทำการบ้าน" เป็นการกระทำที่ทำโดย "เขา".
• พวกเขาเล่นฟุตบอลในสนาม – ในประโยคนี้ "พวกเขา" เป็นผู้กระทำ และ "เล่นฟุตบอล" เป็นการกระทำที่ทำโดย "พวกเขา".

การใช้ Active Voice ช่วยให้ประโยคมีความชัดเจนและตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการเน้นที่การกระทำของผู้กระทำมากกว่าผลลัพธ์หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำนั้นๆ

ความแตกต่างระหว่าง Active Voice และ Passive Voice

ในภาษาอังกฤษ การใช้ Active Voice และ Passive Voice มีความแตกต่างกันในแง่ของการจัดเรียงคำและความสำคัญของผู้กระทำการหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำ ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้มีการใช้งานที่แตกต่างกันตามบริบทและจุดประสงค์ของการสื่อสาร

Active Voice คือรูปแบบที่เน้นการกระทำของประธานในประโยค โดยที่ประธานจะทำการกระทำ และกรรมจะได้รับผลของการกระทำนี้ ตัวอย่างเช่น:

• John (ประธาน) writes (การกระทำ) a letter (กรรม).

ในประโยคนี้ "John" เป็นผู้กระทำการ "writes" และ "a letter" เป็นสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของ John

Passive Voice คือรูปแบบที่เน้นผลของการกระทำที่เกิดขึ้นกับกรรมมากกว่าผู้กระทำการ โดยที่กรรมจะขึ้นต้นประโยค และผู้กระทำการจะถูกรายงานแยกออกไป ตัวอย่างเช่น:

• A letter (กรรม) is written (การกระทำ) by John (ผู้กระทำการ).

ในประโยคนี้ "A letter" เป็นสิ่งที่ได้รับผลของการกระทำ "is written" และ "by John" บอกถึงผู้ที่ทำการกระทำนี้

สรุปวิธีการใช้ Active Voice เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร

การใช้ Active Voice เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วยให้ข้อความของเราชัดเจนและตรงประเด็นมากขึ้น ด้วยการทำให้ผู้พูดเป็นผู้กระทำในประโยค ซึ่งสามารถสร้างความเข้าใจที่รวดเร็วและลดความคลุมเครือในการสื่อสารได้อย่างมาก.

การนำ Active Voice มาใช้ในการเขียนและพูด สามารถทำได้โดยการเน้นที่การกระทำและผู้กระทำ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนรูปประโยคจาก Passive Voice ไปยัง Active Voice จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและทำให้การสื่อสารมีความมีชีวิตชีวามากขึ้น.

ข้อสรุปสำคัญในการใช้ Active Voice

• ชัดเจนและตรงประเด็น: การใช้ Active Voice ทำให้ประโยคของคุณมีความชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น.
• เพิ่มความน่าสนใจ: ประโยคที่ใช้ Active Voice มีความกระชับและมีชีวิตชีวามากกว่าการใช้ Passive Voice.
• ลดความคลุมเครือ: การระบุผู้กระทำอย่างชัดเจนใน Active Voice ช่วยลดความสับสนและทำให้ข้อความของคุณมีความชัดเจนมากขึ้น.

การใช้ Active Voice เป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ข้อความของคุณโดดเด่นและน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยการเน้นที่การกระทำและผู้กระทำ จะช่วยให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังสามารถเข้าใจข้อความของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประ