Active partition not found คืออะไร? คำอธิบายและวิธีการแก้ไข

เมื่อคุณเริ่มต้นการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ บางครั้งคุณอาจพบข้อความแสดงข้อผิดพลาด "Active partition not found" ข้อความนี้อาจทำให้คุณรู้สึกสับสนและกังวลเกี่ยวกับสถานะของฮาร์ดดิสก์หรือการติดตั้งระบบปฏิบัติการของคุณ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้และเหตุผลที่มันเกิดขึ้น รวมถึงวิธีการแก้ไขเพื่อให้คุณสามารถกลับมาใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ตามปกติ ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อระบบไม่สามารถค้นพบพาร์ทิชันที่ถูกกำหนดให้เป็น "Active" ซึ่งเป็นพาร์ทิชันที่ระบบปฏิบัติการจะต้องบูตจากนั้น

เราจะสำรวจรายละเอียดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับข้อความนี้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งและสามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สาเหตุที่ทำให้ Active partition not found เกิดขึ้น

ข้อผิดพลาด "Active partition not found" มักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุที่สำคัญ ซึ่งรวมถึง:ปัญหาการตั้งค่า BIOS/UEFI: หากการตั้งค่า BIOS/UEFI ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ระบบไม่สามารถค้นหา partition ที่ถูกกำหนดให้เป็น Active ได้ความเสียหายของ Partition Table: ความเสียหายหรือการสูญหายของ Partition Table สามารถทำให้ระบบไม่สามารถระบุและเข้าถึง partition ที่ถูกตั้งให้เป็น Active ได้ปัญหาฮาร์ดแวร์: ความผิดปกติของฮาร์ดแวร์ เช่น ปัญหาที่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD สามารถทำให้ระบบไม่สามารถตรวจสอบหรือเข้าถึง partition ที่กำหนดไว้ได้การติดไวรัสหรือมัลแวร์: บางครั้งไวรัสหรือมัลแวร์อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของ partition ทำให้ระบบไม่สามารถระบุ Active partition ได้การจัดการระบบไฟล์ไม่ถูกต้อง: การเปลี่ยนแปลงหรือความไม่ถูกต้องในการจัดการระบบไฟล์อาจส่งผลต่อการค้นหา Active partitionการเข้าใจสาเหตุเหล่านี้สามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาและกลับมาทำงานได้ตามปกติ.

วิธีการแก้ไขปัญหา Active partition not found

ปัญหา "Active partition not found" มักเกิดจากระบบไม่สามารถค้นหา partition ที่ใช้งานอยู่ในระบบปฏิบัติการได้ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาหลายประการ เช่น ความเสียหายของ partition table หรือการตั้งค่า BIOS/UEFI ที่ไม่ถูกต้อง ต่อไปนี้คือขั้นตอนในการแก้ไขปัญหานี้:ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS/UEFI: เข้าไปที่ BIOS/UEFI และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่า boot order ถูกต้อง และเลือกไดรฟ์ที่มีระบบปฏิบัติการเป็นลำดับแรกใช้เครื่องมือซ่อมแซมระบบ: ใช้ดิสก์การติดตั้งของระบบปฏิบัติการ (เช่น Windows Installation Disk) เพื่อเข้าสู่ Recovery Mode จากนั้นใช้เครื่องมือเช่น bootrec หรือ diskpart เพื่อซ่อมแซม boot sector และ partition tableตรวจสอบสถานะของ Partition: ใช้เครื่องมือจัดการดิสก์ในระบบปฏิบัติการ เช่น Disk Management หรือ Command Prompt (คำสั่ง diskpart) เพื่อตรวจสอบว่า partition ที่ใช้งานอยู่ถูกตั้งค่าเป็น Active และยังคงอยู่ในสถานะดีรีบูตและทดสอบ: หลังจากทำการแก้ไขแล้ว ให้ทำการรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์และตรวจสอบว่าปัญหาได้รับการแก้ไขหรือไม่หากปัญหายังคงอยู่ อาจจำเป็นต้องพิจารณาการตรวจสอบ hardware หรือการกู้คืนข้อมูลจาก backup.

เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการตรวจสอบ Active partition

เมื่อคุณต้องการตรวจสอบหรือจัดการกับ Active partition บนระบบของคุณ มีเครื่องมือและซอฟต์แวร์หลายประเภทที่สามารถช่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นบางตัวเลือกที่คุณอาจพบว่ามีประโยชน์:

  1. Disk Management – เครื่องมือในตัวของ Windows ที่ให้คุณดูและจัดการพาร์ทิชันบนดิสก์ของคุณได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
  2. GParted – ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่มีความสามารถในการจัดการพาร์ทิชันอย่างหลากหลาย สามารถใช้ได้ทั้งในระบบ Linux และ Windows
  3. EaseUS Partition Master – เครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชันครบถ้วนในการจัดการพาร์ทิชัน รวมถึงการตรวจสอบและแก้ไข Active partition
  4. AOMEI Partition Assistant – ซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในการจัดการพาร์ทิชัน พร้อมฟังก์ชันในการตรวจสอบสถานะของ Active partition

เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบสถานะของ Active partition และดำเนินการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา Active partition not found ในอนาคต

การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา "Active partition not found" ในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและไม่มีข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดความไม่สะดวก การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและการป้องกันปัญหานี้จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงและรักษาความเสถียรของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ เราได้พูดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา "Active partition not found" และวิธีการที่สามารถป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต การดำเนินการตามคำแนะนำที่ให้ไว้จะช่วยให้ระบบของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น และลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหา

  • ตรวจสอบการตั้งค่า BIOS/UEFI: ให้แน่ใจว่า BIOS หรือ UEFI ของคุณได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้องและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเลือกพาร์ติชันที่ถูกต้องเป็นพาร์ติชันการบูต
  • อัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำ: ติดตั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด รวมถึงอัปเดตระบบปฏิบัติการและไดรเวอร์ เพื่อให้ระบบของคุณทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ
  • ทำการสำรองข้อมูลเป็นประจำ: การสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนข้อมูลสำคัญได้หากเกิดปัญหากับพาร์ติชันของคุณ
  • ตรวจสอบสถานะของพาร์ติชัน: ใช้เครื่องมือสำหรับตรวจสอบและจัดการพาร์ติชันเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าพาร์ติชันการบูตของคุณอยู่ในสถานะที่ดี
  • หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่จำเป็น: หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่จำเป็นกับพาร์ติชันหรือระบบไฟล์ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต

ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดปัญหา "Active partition not found" และทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นในอนาคต