Mormon คืออะไร? ทำความรู้จักกับศาสนาฮาเล่มใหม่
คำว่า "Mormon" อาจจะคุ้นเคยกันดีสำหรับหลายคน แต่ก็อาจจะยังไม่ชัดเจนว่าความหมายของคำนี้คืออะไรและเกี่ยวข้องกับอะไรในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีวัฒนธรรมและศาสนาต่าง ๆ ที่หลากหลาย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "Mormon" จึงมีความสำคัญในการเปิดกว้างทางความคิดและเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับศาสนาที่แตกต่างออกไป
Mormon เป็นชื่อที่ใช้เรียกสมาชิกของศาสนาแห่งพระเยซูคริสต์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ในยุคสุดท้าย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ศาสนาคริสต์ของพระเยซูคริสต์ในยุคสุดท้าย" ศาสนานี้ก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 19 โดยโจเซฟ สมิธ และมีหลักคำสอนและการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปจากคริสต์ศาสนาหลักอย่างที่เราคุ้นเคย
ความสำคัญของการศึกษาเกี่ยวกับศาสนา Mormon อยู่ที่การเข้าใจถึงหลักการและความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา รวมถึงประวัติศาสตร์และการแพร่กระจายของศาสนาไปทั่วโลก ซึ่งสามารถช่วยให้เราเข้าใจและเคารพในความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมได้ดียิ่งขึ้น
มอรมอนคืออะไร? คำอธิบายเบื้องต้น
มอรมอนเป็นชื่อที่ใช้เรียกสมาชิกของศาสนาคริสต์กลุ่มหนึ่งที่รู้จักกันในนามของ "ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย" หรือที่เรียกย่อๆ ว่า "ศาสนจักรวิสุทธิชน" (LDS Church) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 19ศาสนจักรนี้ก่อตั้งโดยโจเซฟ สมิธ (Joseph Smith) ซึ่งอ้างว่าได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าและผู้เผยพระวจนะโบราณ เขาได้แปลหนังสือที่เรียกว่า "หนังสือของมอรมอน" (Book of Mormon) ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญของความเชื่อของพวกเขา หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประชาชนในทวีปอเมริกาและการเผยแพร่ของพระเยซูคริสต์ในสมัยโบราณมอรมอนเชื่อในพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าและเน้นการปฏิบัติตามหลักคำสอนที่เชื่อว่าได้รับการเปิดเผยจากพระเจ้าผ่านทางศาสนจักรของพวกเขา รวมถึงการรักษาคุณธรรม การทดสอบศรัทธา และการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรมในด้านพิธีกรรมและการบูชา มอรมอนมีพิธีกรรมที่เฉพาะเจาะจง เช่น การรับบัพติศมาด้วยการจุ่มน้ำทั้งหมด การรับบัพติศมาแทนผู้อื่นที่ได้เสียชีวิตแล้ว (พิธีการบัพติศมาแทนผู้ตาย) และการประกอบพิธีในวัดที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาจิตวิญญาณแม้ว่าศาสนจักรมอรมอนจะมีความเชื่อที่เฉพาะเจาะจงและข้อปฏิบัติที่แตกต่างจากคริสเตียนกลุ่มอื่นๆ แต่สมาชิกของศาสนจักรมอรมอนมักจะมุ่งเน้นในการพัฒนาตนเองและทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคม
ประวัติความเป็นมาของศาสนามอรมอน
ศาสนามอรมอน หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า "ศาสนาคริสต์ของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย" (The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและหลากหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันศาสนามอรมอนเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ก่อตั้งคือ โจเซฟ สมิธ (Joseph Smith) ซึ่งถือเป็นศาสดาหลักของศาสนานี้ สมิธเกิดเมื่อปี 1805 ในรัฐเวอร์มอนต์ เขาอ้างว่ามีประสบการณ์ศาสนาที่สำคัญในปี 1820 เมื่อพระเจ้าพระเยซูคริสต์และพระบิดา (พระเจ้า) มาเยี่ยมเขาในวิสัยทัศน์ต่อมาในปี 1823 สมิธกล่าวว่าท่านได้รับการเยี่ยมจากทูตสวรรค์ชื่อ โมรอนี (Moroni) ซึ่งบอกให้เขาค้นพบแผ่นจารึกทองคำที่ฝังอยู่ใต้ดิน ในปี 1827 สมิธพบแผ่นจารึกเหล่านี้และเริ่มการแปลข้อความที่เขาเรียกว่า "หนังสือของมอรมอน" (Book of Mormon) ซึ่งเป็นหนึ่งในตำราศักดิ์สิทธิ์ของศาสนานี้ศาสนามอรมอนได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1830 และได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของศาสนา รวมถึงการย้ายที่ตั้งของสมาชิกจากรัฐนิวยอร์กไปยังโอไฮโอ, มิสซูรี และสุดท้ายไปยังยูทาห์ ซึ่งในตอนนั้นเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้พัฒนาในปี 1844 โจเซฟ สมิธถูกสังหารในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองนาวู (Nauvoo) และบทบาทของผู้นำศาสนาได้ตกไปอยู่ในมือของ บรigham Young ผู้เป็นผู้นำในการอพยพของสมาชิกศาสนาไปยังพื้นที่ที่ปัจจุบันคือรัฐยูทาห์ โดยเขามุ่งหวังที่จะสร้างชุมชนที่ปลอดภัยและเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาในปัจจุบัน ศาสนามอรมอนมีสมาชิกมากกว่า 16 ล้านคนทั่วโลก และมีศูนย์กลางหลักอยู่ที่ซอลท์เลคซิตี้, ยูทาห์ นอกจากนี้ ศาสนามอรมอนยังมีการเผยแพร่ศาสนาและสร้างอิทธิพลในหลายประเทศทั่วโลก โดยมีการให้ความสำคัญกับการศึกษาและการบริการสังคมเป็นหลักการเติบโตและพัฒนาของศาสนามอรมอนยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่ความเชื่อและการให้บริการแก่ชุมชนที่อยู่รอบตัว
หลักคำสอนและความเชื่อหลักของมอรมอน
หลักคำสอนและความเชื่อหลักของมอรมอนหรือศาสนาคริสต์นิกายมอรมอน (Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นและแตกต่างจากศาสนาคริสต์หลักอื่นๆ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนิกายที่มีความเชื่อทางศาสนาและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ โดยหลักคำสอนและความเชื่อหลักของมอรมอนสามารถสรุปได้ดังนี้:พระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด: มอรมอนเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและเป็นศูนย์กลางของศาสนา การเชื่อในพระเยซูคริสต์และการปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์เป็นหัวใจของความเชื่อของมอรมอนพระคัมภีร์มอรมอน: มอรมอนถือว่าพระคัมภีร์มอรมอน (Book of Mormon) เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญเทียบเท่าพระคัมภีร์ไบเบิล หนังสือเล่มนี้เชื่อว่าเป็นการเปิดเผยพระวจนะของพระเจ้าให้กับผู้คนในทวีปอเมริกาในยุคโบราณการเปิดเผยของพระเจ้า: ความเชื่อหลักของมอรมอนเน้นความสำคัญของการเปิดเผยพระวจนะและคำสอนของพระเจ้าผ่านผู้เผยพระวจนะในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผู้นำของศาสนาจะได้รับการเปิดเผยโดยตรงจากพระเจ้าเพื่อชี้นำและนำทางสมาชิกการคริสตจักรและการนมัสการ: การเข้าร่วมในการประชุมคริสตจักรและการนมัสการเป็นส่วนสำคัญของชีวิตมอรมอน การประชุมรวมถึงการเรียนรู้คำสอนทางศาสนา การอธิษฐาน และการร่วมรับประทานศีลพระกายและพระโลหิตของพระเยซูความสำคัญของครอบครัว: มอรมอนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับครอบครัวและเชื่อว่าอาณาจักรพระเจ้าเป็นสถานที่ที่ครอบครัวจะรวมตัวกันอย่างเป็นนิรันดร์ การบูรณาการครอบครัวและการให้ความรักและสนับสนุนแก่สมาชิกในครอบครัวเป็นหัวใจของหลักคำสอนการปฏิบัติธรรม: การปฏิบัติธรรม เช่น การอธิษฐาน การถือศีล และการให้ทานถือเป็นส่วนสำคัญของชีวิตมอรมอน สมาชิกมอรมอนเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาใกล้ชิดกับพระเจ้าและเติบโตในศรัทธาหลักคำสอนและความเชื่อหลักเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้มอรมอนมีวิถีชีวิตและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และสะท้อนถึงความเชื่อที่มุ่งเน้นการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณและการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพระเจ้า
การกระจายตัวและการปฏิบัติของมอรมอนทั่วโลก
มอรมอนหรือที่รู้จักในชื่อ "ศาสนาผู้สอนพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย" (LDS Church) มีการกระจายตัวอย่างกว้างขวางทั่วโลก ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นในการเผยแพร่ศาสนาและการทำงานร่วมกันของสมาชิกศาสนาในการสนับสนุนการเติบโตของคริสตจักรในภูมิภาคต่างๆ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มอรมอนได้ขยายการมีอยู่ในหลายประเทศและภูมิภาค โดยการเปิดสาขาใหม่ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชนท้องถิ่น การปฏิบัติของมอรมอนทั่วโลกมีความหลากหลาย แต่ยังคงรักษาหลักการและศีลธรรมที่สำคัญไว้ได้
การกระจายตัวของมอรมอน
มอรมอนมีการกระจายตัวอย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยมีจำนวนสมาชิกและกิจกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ดังนี้:
การปฏิบัติของมอรมอนทั่วโลก
การปฏิบัติของมอรมอนแม้ว่าจะมีความหลากหลายตามวัฒนธรรมและภูมิภาค แต่ยังคงมีหลักการพื้นฐานที่เหมือนกันทั่วโลก:
- การศึกษา: มอรมอนให้ความสำคัญกับการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมีกิจกรรมการศึกษาสำหรับสมาชิกทุกวัย
- การบริการ: สมาชิกมอรมอนมักจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการบริการสังคมและช่วยเหลือชุมชน
- การบูชา: การบูชาในวัดและการสวดมนต์มีความสำคัญและมีการจัดอย่างสม่ำเสมอ
- การสนับสนุนครอบครัว: มอรมอนเน้นความสำคัญของครอบครัวและการรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัว
โดยสรุป มอรมอนมีการกระจายตัวและการปฏิบัติที่หลากหลายไปทั่วโลก แต่ยังคงรักษาหลักการและค่านิยมพื้นฐานที่สำคัญไว้ การขยายตัวในระดับนานาชาติแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเผยแพร่ศาสนาและการส่งเสริมความร่วมมือในระดับโลก