Google Sites Classic คือ อะไร? การทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มเว็บไซต์ของ Google

ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งบุคคลและองค์กรต่างๆ หนึ่งในเครื่องมือที่มีความนิยมในการสร้างเว็บไซต์คือ Google Sites Classic ซึ่งเป็นเวอร์ชันเก่าของ Google Sites ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่สะดวกและใช้งานง่าย

Google Sites Classic เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดย Google เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ส่วนตัวหรือองค์กรได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือการออกแบบเว็บไซต์ที่ซับซ้อน มันช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างหน้าเว็บที่มีรูปแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

ในบทความนี้เราจะสำรวจความสามารถและคุณสมบัติของ Google Sites Classic รวมถึงข้อดีและข้อเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจได้ว่าควรใช้เครื่องมือนี้สำหรับความต้องการในการสร้างเว็บไซต์ของตนหรือไม่

Google Sites Classic คืออะไร?

Google Sites Classic เป็นเวอร์ชันดั้งเดิมของเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่พัฒนาโดย Google ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 และเป็นที่นิยมในช่วงแรก ๆ เนื่องจากความเรียบง่ายและใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมหรือการออกแบบเว็บฟีเจอร์หลักของ Google Sites Classic รวมถึง:การสร้างและแก้ไขเว็บไซต์: ผู้ใช้สามารถสร้างและแก้ไขเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย มีเทมเพลตหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ซึ่งช่วยให้การออกแบบเว็บไซต์เป็นไปได้อย่างสะดวกการจัดการเนื้อหา: ผู้ใช้สามารถเพิ่มข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, และเอกสารลงในเว็บไซต์ได้ง่ายๆ และสามารถจัดระเบียบเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์ได้ตามต้องการการแชร์และควบคุมการเข้าถึง: Google Sites Classic อนุญาตให้ผู้ใช้แชร์เว็บไซต์กับผู้อื่น และกำหนดระดับการเข้าถึงได้ เช่น การอนุญาตให้ผู้อื่นเข้ามาแก้ไขหรือดูเว็บไซต์การบูรณาการกับบริการอื่นๆ ของ Google: เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นสามารถเชื่อมโยงกับ Google Drive, Google Calendar และบริการอื่น ๆ ของ Google ได้อย่างสะดวกถึงแม้ว่า Google Sites Classic จะได้รับความนิยมในช่วงต้น แต่ Google ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของ Google Sites ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ทันสมัยและการออกแบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ทำให้ Google Sites Classic ได้รับการยกเลิกการสนับสนุนอย่างเป็นทางการในปี 2021ในขณะนี้ ผู้ใช้ที่ยังคงใช้ Google Sites Classic จะต้องพิจารณาการย้ายไปยัง Google Sites รุ่นใหม่เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่และการสนับสนุนที่ดีขึ้น

ประวัติและความเป็นมาของ Google Sites Classic

Google Sites Classic คือ บริการที่สร้างเว็บไซต์จาก Google ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางด้านการเขียนโค้ดหรือการออกแบบเว็บไซต์ที่ซับซ้อน Google Sites Classic เป็นเวอร์ชันดั้งเดิมที่มีฟีเจอร์พื้นฐานที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวหรือเว็บไซต์สำหรับองค์กรเล็กๆฟีเจอร์หลักของ Google Sites Classic รวมถึงการสร้างและจัดระเบียบหน้าเว็บในรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้ เพียงแค่ลากและวาง (drag-and-drop) ข้อมูลและวิดเจ็ตต่างๆ ลงบนหน้าเว็บ นอกจากนี้ยังมีเทมเพลตพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้ใช้เริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ได้รวดเร็วขึ้น Google Sites Classic ยังสนับสนุนการรวมเนื้อหาจากบริการของ Google อื่นๆ เช่น Google Docs, Google Calendar และ YouTube ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถฝังข้อมูลเหล่านี้ลงในเว็บไซต์ได้โดยตรงในปี 2016 Google ได้เปิดตัว Google Sites รุ่นใหม่ ซึ่งมีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้การสร้างเว็บไซต์เป็นไปอย่างสะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น โดย Google Sites ใหม่มีการออกแบบที่ทันสมัยกว่า และเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งที่มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนสำหรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่หลังจากการเปิดตัว Google Sites รุ่นใหม่ Google Sites Classic จึงถูกปรับลดการสนับสนุนและมีการปิดให้บริการในบางกรณี ผู้ใช้ที่ยังคงใช้ Google Sites Classic จะต้องทำการอัพเกรดไปยัง Google Sites รุ่นใหม่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อไปGoogle Sites Classic ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการสร้างเว็บไซต์ของ Google และเป็นพื้นฐานที่ช่วยในการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่มีฟีเจอร์ที่หลากหลายและทันสมัยมากขึ้น

ฟีเจอร์หลักของ Google Sites Classic ที่คุณควรรู้

Google Sites Classic เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและมีความยืดหยุ่น ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่มีประสบการณ์ในการสร้างเว็บไซต์ ในบทความนี้เราจะมาดูฟีเจอร์หลักที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Google Sites Classic:การสร้างและจัดการเว็บไซต์Google Sites Classic ให้คุณสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้เทมเพลตที่มีอยู่แล้วหรือเริ่มต้นจากศูนย์ การจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะด้านการเขียนโค้ดเครื่องมือในการลากและวาง (Drag-and-Drop)ฟีเจอร์การลากและวางช่วยให้คุณสามารถเพิ่มเนื้อหา เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ ลงในเว็บไซต์ของคุณได้อย่างรวดเร็วและสะดวกการรวมกับ Google Driveคุณสามารถเชื่อมต่อเว็บไซต์ของคุณกับ Google Drive เพื่อฝังเอกสาร รูปภาพ หรือวิดีโอลงในเว็บไซต์ได้โดยตรง ซึ่งทำให้การจัดการเนื้อหาง่ายและมีประสิทธิภาพการควบคุมการเข้าถึงและการแชร์Google Sites Classic อนุญาตให้คุณควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ คุณสามารถกำหนดให้เว็บไซต์ของคุณเป็นสาธารณะ หรือจำกัดการเข้าถึงสำหรับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะการออกแบบและปรับแต่งแม้ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการ แต่ Google Sites Classic ยังให้คุณปรับแต่งการออกแบบของเว็บไซต์ได้ตามต้องการ รวมถึงการเปลี่ยนรูปแบบของเทมเพลตและการจัดวางเลย์เอาต์การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลคุณสามารถใช้ Google Analytics เพื่อติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณและเก็บข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นการสนับสนุนการทำงานร่วมกันฟีเจอร์นี้ทำให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันในการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถเชิญผู้ใช้คนอื่นเข้ามาช่วยในโครงการได้ง่าย ๆการใช้ Google Sites Classic สำหรับการสร้างเว็บไซต์อาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีความซับซ้อนมาก แต่สำหรับการสร้างเว็บไซต์พื้นฐานและการแชร์ข้อมูล มันเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Google Sites Classic

การใช้ Google Sites Classic มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้งาน ดังนี้:

ข้อดีของการใช้ Google Sites Classic

ใช้งานง่าย: Google Sites Classic ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ดหรือการออกแบบที่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยากฟรีและไม่มีโฆษณา: การใช้ Google Sites Classic ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีโฆษณาที่แสดงบนเว็บไซต์ ซึ่งเป็นข้อดีที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ที่เรียบง่ายและเป็นส่วนตัวการรวมกับบริการของ Google: Google Sites Classic สามารถรวมกับบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Google Drive, Google Calendar และ Google Docs ซึ่งช่วยให้การแชร์และการจัดการเนื้อหาเป็นเรื่องง่ายการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง: ผู้ใช้สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงและการแก้ไขเว็บไซต์ได้ตามต้องการ ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการเข้าถึงและการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี

ข้อเสียของการใช้ Google Sites Classic

ข้อจำกัดในการปรับแต่ง: Google Sites Classic มีข้อจำกัดในการปรับแต่งรูปลักษณ์และฟังก์ชันของเว็บไซต์ ทำให้ไม่สามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนหรือความเฉพาะตัวสูงได้ฟีเจอร์ที่ล้าสมัย: เนื่องจาก Google Sites Classic เป็นเวอร์ชันเก่า อาจขาดฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีใน Google Sites รุ่นล่าสุด ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ๆ ที่ทันสมัยได้การสนับสนุนที่ลดลง: Google Sites Classic อาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรืออัปเดตอย่างสม่ำเสมอจาก Google ซึ่งอาจทำให้มีปัญหาด้านความปลอดภัยหรือข้อผิดพลาดที่ไม่ได้รับการแก้ไขประสบการณ์ผู้ใช้ที่ด้อยกว่า: ด้วยการออกแบบที่ไม่ทันสมัย ผู้ใช้บางคนอาจพบว่าประสบการณ์ในการใช้งาน Google Sites Classic นั้นไม่สะดวกและไม่เหมาะสมกับความต้องการในปัจจุบันการพิจารณาข้อดีและข้อเสียเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่า Google Sites Classic เป็นเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณหรือไม่

การเปลี่ยนแปลงจาก Google Sites Classic ไปยัง Google Sites ใหม่

การเปลี่ยนแปลงจาก Google Sites Classic ไปยัง Google Sites ใหม่เป็นการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญที่มีผลต่อวิธีการสร้างและจัดการเว็บไซต์ของคุณ Google Sites ใหม่ได้ปรับปรุงและเพิ่มคุณสมบัติมากมายที่ช่วยให้การออกแบบและจัดการเว็บไซต์เป็นเรื่องง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และฟังก์ชันการทำงาน แต่ยังมีผลต่อความสะดวกในการใช้งานและการเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ

การย้ายจาก Google Sites Classic ไปยัง Google Sites ใหม่สามารถมองได้เป็นการปรับปรุงที่สำคัญที่มุ่งเน้นการให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงที่หลากหลายดังต่อไปนี้:

โดยรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงจาก Google Sites Classic ไปยัง Google Sites ใหม่เป็นการพัฒนาที่มีข้อดีมากมาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีความทันสมัยและใช้งานง่ายขึ้น การอัปเกรดนี้ไม่เพียงแต่ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังทำให้การจัดการเว็บไซต์และการรวมข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น